ขตสุขภาพที่ 3” ตั้งเป้าลดเวลารอคอยรักษา 4 โรค ช่วยประชาชนเข้าถึงบริการรักษาเร็วขึ้น
เขตสุขภาพที่ 3 พัฒนาระบบบริการลดการรอคอยรักษาใน 4 โรค ตาต้อกระจก จอประสาทตาเสื่อม มะเร็ง และหัวใจ เพิ่มการเข้าถึงบริการ พัฒนาโรงพยาบาลให้มีศักยภาพรักษาโรคหัวใจ ฉายรังสี ลดการรักษาผู้ป่วยข้ามเขต |
แหล่งข่าวโดย »สำนักสารนิเทศ |
ครม.อนุมัติให้สาธารณสุขจ่ายค่าตอบแทนกำลังคนต่อได้ มีผลย้อนหลังตั้งแต่ 1 ต.ค. 57
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเผยที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้กระทรวงสาธารณสุขจ่ายค่าตอบแทนกำลังคนต่อเนื่องตามหลักเกณฑ์เดิมย้อนหลังตั้งแต่ 1ตุลาคม 2557 เป็นต้นไปสร้างขวัญกำลังใจแก่ผู้ปฏิบัติงาน ศาสตราจารย์นายแพทย์รัชตะรัชตะนาวินรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขให้สัมภาษณ์ว่าคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2558 อนุมัติให้กระทรวงสาธารณสุขจ่ายค่าตอบแทนตามหลักเกณฑ์เงื่อนไขเดิมที่คณะรัฐมนตรี(ครม.) เคยมีมติอนุมัติเมื่อวันที่ 26 มีนาคม2556 และ 31 มีนาคม 2556 และสิ้นสุดเมื่อเดือนกันยายน 2557 มี 2 ส่วนคือค่าเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายและค่าตอบแทนตามผลการปฏิบัติงานโดยให้เบิกจ่ายย้อนหลังได้ตั้งแต่วันที่1ตุลาคม 2557 เป็นต้นไปเพื่อให้เกิดความต่อเนื่องไม่ขาดตอนและสร้างขวัญกำลังใจแก่ผู้ปฏิบัติงาน ศาสตราจารย์นายแพทย์รัชตะกล่าวต่อว่ากระทรวงสาธารณสุขได้นำมาตรการการจ่ายค่าเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายมาใช้ร่วมกับอีกหลายมาตรการเพื่อแก้ปัญหาขาดแคลนกำลังคนและสร้างแรงจูงใจแก่ผู้ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลทุกระดับโดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกลช่วยให้สามารถกระจายกำลังคนในสาขาขาดแคลนไปปฏิบัติงานในโรงพยาบาลชุมชนเพิ่มมากขึ้นซึ่งในการเบิกจ่ายค่าเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายได้กำหนดเงื่อนไขให้ผู้ปฏิบัติงานทุ่มเทการทำงานให้กับหน่วยงานอย่างเต็มที่จึงจะสามารถเบิกจ่ายได้ ด้านนายแพทย์สมศักดิ์ชุณหรัศมิ์รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขกล่าวว่าการจ่ายค่าตอบแทนกำลังคนดังกล่าว กระทรวงสาธารณสุขให้ความสำคัญกับกระบวนการบริหารจัดการและการควบคุมภายในมุ่งเน้นให้เกิดประสิทธิภาพการจัดบริการสุขภาพให้กับประชาชนดังนั้นการเสนอขออนุมัติครม. ให้จ่ายค่าตอบแทนตามมติครม.เดิมที่ได้อนุมัติไว้แล้วเป็นหลักการที่สามารถดำเนินการต่อไปได้และได้มีการประเมินผลเบื้องต้นแล้วพบว่าสามารถพัฒนาต่อยอดได้โดยการจ่ายค่าเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายเป็นค่าตอบแทนที่จำเป็นเพื่อสนับสนุนให้เกิดการกระจายกำลังคนให้เพียงพอส่วนค่าตอบแทนตามผลการปฏิบัติงานจะเป็นการสนับสนุนการพัฒนาประสิทธิภาพการบริการได้ ด้านนายแพทย์อำนวยกาจีนะรองปลัดกระทรวงสาธารณสุขรักษาราชการแทนปลัดกระทรวงสาธารณสุขกล่าวว่าขณะนี้ได้ให้หน่วยงานเกี่ยวข้องจัดทำรายละเอียดประกาศหลักเกณฑ์การเบิกค่าเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายและค่าตอบแทนตามผลการปฏิบัติงานพร้อมลงนามเวียนให้ทุกหน่วยทราบและใช้ประกอบการเบิกค่าตอบแทนเมื่อได้รับแจ้งมติครม. ต่อไป สำหรับงบประมาณสำหรับค่าตอบแทนทั้งสองประเภทในปี 2558 มีจำนวนทั้งสิ้น3,000 ล้านบาทนั้นขณะนี้สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) ได้โอนจัดสรรงบประมาณดังกล่าวให้กับหน่วยบริการในสังกัดของกระทรวงสาธารณสุขแล้วเป็นไปตามข้อเสนอของสธ. ที่กำหนดสัดส่วนการจัดสรรเพื่อช่วยเหลือโรงพยาบาลที่อยู่ในพื้นที่เฉพาะที่ห่างไกลและโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลก่อนสำหรับโรงพยาบาลขนาดขนาดใหญ่และอยู่ในพื้นที่ปกติจะได้รับจัดสรรลดหลั่นลงไปส่วนที่เหลือจะเป็นการเบิกจากเงินบำรุงของหน่วยบริการ ***************************** 24 กรกฎาคม 2558 |
แหล่งข่าวโดย » สำนักสารนิเทศ |